ในหนึ่งชีวิตของคนเรา ต่างล้วนเจอะเจอกับเรื่องราวที่ทำให้เราต้องจดจำ
แต่ก็น่าแปลก ที่เรามักจดจำเรื่องเศร้าๆ ได้นานกว่ายามมีความสุข
เมื่อเราได้พบเจอ และ เมื่อต้องจากลากับใครสักคน
น่าแปลกที่เราต้องเสียน้ำตาให้เวลาแห่งจากลา
มากกว่าจะยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงวันแรกพบกัน
คนบางคนเลือกที่จะจมอยู่กับสิ่งร้ายๆ เหล่านั้น และ พร้อมเสมอ
ที่จะฉายภาพแห่งความเศร้า และการจากลานั้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก
แท้จริงแล้ว เราต่างล้วนไม่เคยจากกันไปไหน
แม้จากไปแดนไกล...แต่เรารู้ได้ ว่าเค้ายังคงอยู่ในโลกใบเดียวกับเรา แหงนหน้ามองฟ้า
ก็ยังเป็น ตะวัน และดาวดวงเดียวกัน
และเมื่อถึงวาระ....แห่งการจากกันอย่างนิรันดร์ สสารของร่างกายได้เปลี่ยนสภาพไป
ไม่ได้เห็น และไม่ได้ยิน แต่ ยังรู้สึกได้ ทุกครั้งที่หลับตา
เราจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าทุกครั้งที่ลมอุ่นๆ พัดมารอบๆตัวเรา เมื่อฤดูหนาว
จะไม่ใช่อ้อมกอดของคนที่เรากำลังคิดถึง .....
และบางที เวลาเราตื่นขึ้นมาเองในบางวัน แม้ในยามที่นาฬิกาปลุกไม่ทำงาน
จะไม่ใช่ คนที่รักเรา มาปลุก และห่วงกลัวว่าเราจะไปสาย.....
ทุกวันเวลาที่เราเคยใช้จ่ายไปด้วยกันนั้น...ล้วนไม่มีอะไรจะมาพรากมันไปจากเราได้
ความทรงจำเป็นสมบัติติดตัวที่แม้ เศรษฐี หรือ ยาจกต่างก็ล้วนมีติดตัวมาไม่ต่างกัน
ถึงแม้วันนึงร่างกายเราจะแก่ชราลงไป... หลายๆสิ่งลบเลือนไปตามเวลา
แต่ความทรงจำ เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ติดตัวเราไปตราบจนวันนั้น
และเมื่อวาระของเรามาถึงเช่นเดียวกันในสักวัน
ดอกไม้ เบ่งบาน และโรยราอยู่ทุกวัน เพียงแต่เราไม่ได้สังเกตุเห็น
เรามักชื่นชม แต่ดอกไม้ที่กำลังบาน และอวดกลิ่นหอม
หลงลืมว่ามันก็บานได้แค่ไม่กี่วัน...และต่างก็ ร่วงสู่ดิน...เพื่อรอเวลา
ผลิบาน อีกครั้ง.... และ โรยรา อีกครั้งเช่นกัน
ใครจะรู้....คนที่รอเราอยู่ ที่ปลายอุโมงค์นั่น
อาจเป็นคนที่ เราคิดถึงเค้ามาตลอดชีวิตก็เป็นได้
และเมื่อถึงวันนั้น กอดเค้าให้หายคิดถึง .....เอ่ยคำรัก ซ้ำๆ ให้เท่ากับที่ใจอยากจะบอก
บอกให้มันดังๆ กอดเค้าให้แน่นๆ....
เพราะเมื่อเราจะต้องจากกันอีกสักครั้ง
จะได้ ไม่เสียใจ และระลึกไว้เสมอว่า
ทุกการจากลา...ล้วนไม่เคยมีอยู่จริง
มากกว่าจะยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงวันแรกพบกัน
คนบางคนเลือกที่จะจมอยู่กับสิ่งร้ายๆ เหล่านั้น และ พร้อมเสมอ
ที่จะฉายภาพแห่งความเศร้า และการจากลานั้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก
แท้จริงแล้ว เราต่างล้วนไม่เคยจากกันไปไหน
แม้จากไปแดนไกล...แต่เรารู้ได้ ว่าเค้ายังคงอยู่ในโลกใบเดียวกับเรา แหงนหน้ามองฟ้า
ก็ยังเป็น ตะวัน และดาวดวงเดียวกัน
และเมื่อถึงวาระ....แห่งการจากกันอย่างนิรันดร์ สสารของร่างกายได้เปลี่ยนสภาพไป
ไม่ได้เห็น และไม่ได้ยิน แต่ ยังรู้สึกได้ ทุกครั้งที่หลับตา
เราจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าทุกครั้งที่ลมอุ่นๆ พัดมารอบๆตัวเรา เมื่อฤดูหนาว
จะไม่ใช่อ้อมกอดของคนที่เรากำลังคิดถึง .....
และบางที เวลาเราตื่นขึ้นมาเองในบางวัน แม้ในยามที่นาฬิกาปลุกไม่ทำงาน
จะไม่ใช่ คนที่รักเรา มาปลุก และห่วงกลัวว่าเราจะไปสาย.....
ทุกวันเวลาที่เราเคยใช้จ่ายไปด้วยกันนั้น...ล้วนไม่มีอะไรจะมาพรากมันไปจากเราได้
ความทรงจำเป็นสมบัติติดตัวที่แม้ เศรษฐี หรือ ยาจกต่างก็ล้วนมีติดตัวมาไม่ต่างกัน
ถึงแม้วันนึงร่างกายเราจะแก่ชราลงไป... หลายๆสิ่งลบเลือนไปตามเวลา
แต่ความทรงจำ เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ติดตัวเราไปตราบจนวันนั้น
และเมื่อวาระของเรามาถึงเช่นเดียวกันในสักวัน
ดอกไม้ เบ่งบาน และโรยราอยู่ทุกวัน เพียงแต่เราไม่ได้สังเกตุเห็น
เรามักชื่นชม แต่ดอกไม้ที่กำลังบาน และอวดกลิ่นหอม
หลงลืมว่ามันก็บานได้แค่ไม่กี่วัน...และต่างก็ ร่วงสู่ดิน...เพื่อรอเวลา
ผลิบาน อีกครั้ง.... และ โรยรา อีกครั้งเช่นกัน
ใครจะรู้....คนที่รอเราอยู่ ที่ปลายอุโมงค์นั่น
อาจเป็นคนที่ เราคิดถึงเค้ามาตลอดชีวิตก็เป็นได้
และเมื่อถึงวันนั้น กอดเค้าให้หายคิดถึง .....เอ่ยคำรัก ซ้ำๆ ให้เท่ากับที่ใจอยากจะบอก
บอกให้มันดังๆ กอดเค้าให้แน่นๆ....
เพราะเมื่อเราจะต้องจากกันอีกสักครั้ง
จะได้ ไม่เสียใจ และระลึกไว้เสมอว่า
ทุกการจากลา...ล้วนไม่เคยมีอยู่จริง
ไพเราะครับซึ้งดี
ตอบลบขอบคุนสำหรับบทความดีๆค่ะ
ตอบลบชอบมากๆค่ะ " ทุกการจากลา...ล้วนไม่เคยมีอยู่จริง "
ตอบลบเป็นบทความที่ดีมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วนึกถึงบุคลที่เรารักต้องจากไป ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ